Monday, February 9, 2009

มะเร็งเต้านม เป็นมะเร็งที่พบมากที่สุดอันหนึ่งในผู้หญิง

มะเร็งเต้านม เป็นมะเร็งที่พบมากที่สุดอันหนึ่งในผู้หญิง และเป็นสาเหตุการตาย ที่สำคัญของผู้หญิง อัตราเฉลี่ยของผู้หญิงที่เป็น พบประมาณ 1 ใน 9 ของผู้หญิงทั้งหมด


สาเหตุของมะเร็งเต้านม



มีหลายปัจจัยทีเชื่อว่าเป็นสาเหตุของมะเร็งเต้านม คือ


พันธุกรรม เชื่อว่า มะเร็งเต้านม ประมาณ 30% มีการสัมพันธ์กับ ประวัติครอบครัว หรือ ยีน
อาหาร พบว่า การทานอาหารที่ไขมันสูง อาหารทอด อาจเพิ่มอุบัติการณ์การเกิดมะเร็งเต้านมได้ (รายงานของ National Cancer Institute)
Hormone พบว่า การใช้ Hormoneใน เพศหญิงเช่นการทานยาคุมกำเนิดตั้งแต่อายุยังน้อย ทานเป็นเวลานานๆ อาจเพิ่มอุบัติการณ์ของการเกิดมะเร็งเต้านม การให้Hormone ทดแทน ในหญิงวัยทอง ก็สามารถเพิ่มอุบัติการณ์การเป็นมะเร็งเต้านมเล็กน้อยเช่นเดียวกัน
ความอ้วน พบว่า ผู้หญิงที่อ้วน โดยเฉพาะในช่วงหลังหมดประจำเดือน เพิ่มอุบัติการณ์ การเป็นมะเร็งเต้านม 1.5-2.0 เท่า
การให้นมลูก สมัยก่อนเคยมีรายงานว่าผู้หญิงที่เคยให้นมลูกมากกว่า 36 เดือนทั้งชีวิต จะลดการเป็นมะเร็งเต้านม แต่ปัจจุบันไม่เชื่อทฤษฎีนี้แล้ว
การเข้าสู่ระยะหมดประจำเดือน พบว่าการเข้าสู้ระยะหมดประจำเดือนเร็ว เช่นประจำเดือนหมด ตั้งแต่อายุก่อน 45 ปี โอกาสการเป็นมะเร็งเต้านมจะน้อยกว่าคนที่ประจำเดือน หมดช้า เช่น ประจำเดือนหมดอายุ 55 ปี ถึง 2เท่า
การมีบุตร พบว่าในคนที่ไม่มีบุตร มีอุบัติการณ์การเกิดโรคมะเร็งมากกว่าคนมีบุตร 30-70% ยิ่งมีบุตรคนแรกอายุน้อยอุบัติการณ์จะยิ่งลดลง แต่ถ้ามีบุตรคนแรกอายุมากกว่า 30 ปี โอกาสเป็นมะเร็ง ก็จะสูงขึ้น
มีเนื้องอกที่อื่น พวกนี้มักมีเรื่องของพันธุกรรมมาเกี่ยวข้อง โอกาสที่มีมะเร็งเต้านมก็จะสูงขึ้น
กัมมันตรังสี โดนรังสีมากๆ อุบัติการณ์สูงขึ้น ตอนนั้นพบว่าคนที่อยู่ที่ญี่ปุ่นใกล้เมือง ที่โดนระเบิดปรมาณู เป็นมะเร็งเต้านมมากขึ้น แต่สำหรับ การฉาย X-ray พบอุบัติการณ์ที่จะเป็นมะเร็งน้อยกว่า 1% ดังนั้นคงไม่ต้องกลัวครับ
ลักษณะของก้อนที่เป็นมะเร็งเต้านม ดูได้ที่นี่ครับ





การรักษา



ปัจจุบัน เชื่อว่า มะเร็งเต้านม ไม่ใช่โรคที่เป็นเฉพาะที่ แต่เชื่อว่าเป็นโรคทั้งระบบของร่างกาย (Systemic Disease) ดังนั้น ในการรักษา การผ่าตัดอาจไม่เพียงพอ อาจต้องมีการให้ เคมีบำบัด หรือ การใช้ Hormone ช่วยในการรักษา

การผ่าตัดปัจจุบันที่ทำกันบ่อยๆ มี 2 ชนิด คือ


ตัดเต้านมออกทั้งหมด คือจะตัดเต้านมข้างที่เป็นมะเร็งออกทั้งหมดรวมทั้งเลาะต่อมน้ำเหลืองที่รักแร้ออกไปด้วย เป็นการผ่าตัดมาตรฐานที่ทำกันอยู่
ตัดเต้านมออกบางส่วน
จุดประสงค์ก็คือ ต้องการเก็บเต้านมไว้เพื่อความสวยงาม โดยอาจตัดออกไปกว้างขึ้น บริเวณที่ก้อนเนื้องอกอยู่ แต่ว่าการผ่าตัดชนิดนี้ ไม่สามารถทำได้ใน ผู้ป่วยทุกคน จะสามารถทำได้ในกรณีที่
ก้อนไม่ใหญ่มาก
ยังคลำไม่พบต่อมน้ำเหลืองที่รักแร้
ก้อนไม่ได้อยู่ตรงกลางหรือใกล้หัวนม
ผ่าแล้วเต้านมที่เหลือต้องดูสวย เพราะจุดประสงค์ใหญ่คือ ความสวยงาม ด้วย นั่นคือ ถ้า เอาเนื้องอกออกแล้ว เต้านมผิดรูปมาก ไม่สวย ไม่ควรทำวิธีนี้
หลังจากผ่าตัดแบบไม่ตัดเต้านมออกทั้งหมด ผู้ป่วยจะต้องได้รับการฉายแสงที่บริเวณเต้านมที่เหลือ

ส่วนเรื่อง เคมีบำบัด การใช้ Hormone คงต้องดูระยะของโรค ชนิดของ Cell ซึ่งการผ่าตัดทั้ง 2 ชนิด ก็ยังต้องรับการรักษาต่อเหมือนกัน


สรุป ถ้า เอาเต้านมออกหมด ไม่ต้องฉายแสง แต่ถ้า เก็บเต้านม ต้องฉายแสง


การป้องกัน



การป้องกันที่สำคัญที่สุด คือ การค้นหาโรคตั้งแต่ยังไม่มีอาการเพื่อจะได้รีบรักษาก่อนที่จะลุกลาม


การตรวจเต้านมด้วยตนเอง



ช่วงไหนที่เหมาะ
ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการตรวจเต้านมด้วยตนเอง จริงๆแล้วสามารถตรวจได้ทุกวัน แต่พบว่าช่วง 7 วันหลังมีประจำเดือน ช่วงนี้เต้านมจะไม่ตึงจนเกินไป จะทำให้ตรวจง่าย

เริ่มเมื่อไหร่ดี?
จริงๆ เราสามารถคลำได้ทุกวันที่มีโอกาส เริ่มตั้งแต่อายุ 20 ปีเลยก็ได้ครับ ส่วนเมื่ออายุ 35 ปีขึ้นไป(หรือ 30ปี ขึ้นไปในคนไข้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งเต้านม ก็ ไปทำ Mammogram ปีละครั้ง ไปเรื่อยๆครับ; )

ตรวจอย่างไร
การตรวจเต้านมด้วยตนเองมี 3 วิธี




1.ยืนหน้ากระจก
-ปล่อยแนบข้างลำตัวตามสบาย เปรียบเทียบเต้านมทั้ง 2 ข้างว่ามีการบิดเบี้ยวของหัวนม ความสูงต่ำ ของหัวนม หรือ สิ่งผิดปกติอื่นๆหรือไม่
-ประสานมือทั้ง 2 ข้างเหนือศรีษะแล้วกลับมาอยู่ในท่าท้าวสะเอว พร้อมทั้งดูสิ่งที่ผิด ปกติ
-ให้โค้งตัวมาข้างหน้าโดยใช้มือทั้ง 2 ข้าง วางบนเข่า ในท่านี้เต้านมจะห้อยลงไปตรง อาจมองเห็นความผิดปกติได้ชัดมากขึ้น
2.นอนราบ
-นอนในท่าที่สบายแล้วสอดหมอน หรือม้วนใต้ผ้าใต้ไหล่ซ้าย
-ยกแขนด้านเดียวกับเต้านมที่จะตรวจเหนือศีรษะเพื่อให้เต้านมด้านนั้นแผ่ราบซึ่งจะ ทำให้ คลำพบ ก้อนได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะส่วนบนด้านนอก ซึ่งมีเนื้อนมหนามากที่สุด และเกิดมะเร็งบ่อยกว่าส่วนอื่น
-ให้ใช้ 3 นิ้ว คือ นิ้วชี้ นิ้วกลาง และ นิ้วนาง คลำทั่วทั้งเต้านมและรักแร้ ที่สำคัญคือ ห้ามบีบเนื้อเต้านม เพราะจะทำให้รู้สึกว่ามีก้อน ซึ่งจริงๆแล้วไม่ใช่





3.ขณะอาบน้ำ
-สำหรับผู้หญิงที่มีเต้านมขนาดเล็ก
ให้วางมือข้างเดียวกับเต้านม ที่ต้องการตรวจบนศีรษะ แล้วใช้มืออีกข้างคลำ ในทิศทางเดียวกับที่คลำในท่านอน
-สำหรับผู้หญิงที่มีเต้านมขนาดใหญ่ ให้ใช้มือข้างนั้นประคองและตรวจคลำเต้านมจากด้านล่าง ส่วนมืออีกข้างให้คลำจากด้านบน
วิธีการคลำมีดังนี้




การคลำในแนวก้นหอย
-โดยเริ่มจากส่วนบนไปตามแนวก้นหอย จนกระทั่งถึงฐานเต้านมบริเวณรักแร้
การคลำในแนวขึ้นลง
-เริ่มจากใต้เต้านมถึงรักแร้แล้วขยับนิ้วทั้ง 3 คลำในแนวขึ้นและลงสลับกันไปเรื่อยๆจนทั่วทั้งเต้านม





การคลำในแนวรูปลิ่ม
-เริ่มจากส่วนบนของเต้านมจนถึงฐานแล้วกลับสู่ยอดอย่างนี้ไปเรื่อยๆให้ทั่วทั้งเต้านม
โดย นพ.ธเนศ พัวพรพงษ์ศัลยแพทย์


*+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++*
ใครที่อยู่ในความเสี่ยงของมะเร็งเต้านม?

ผู้หญิงที่มีคนในครอบครัวมีประวัติเป็นโรคนี้ เช่น แม่ พ่อหรือน้องสาว และลูกสาว อัตราเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งเต้านม จะเพิ่มขึ้นตามอายุและเพิ่มขึ้นมากในผู้หญิงที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป นอกจากนี้ยังมีปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ที่ส่งเสริมให้เป็นมะเร็งเต้านมได้อีก เช่น เคยมีก้อนเนื้องอกที่เต้านม เคยเป็นมะเร็งเต้านมมาแล้วข้างหนึ่ง เคยได้รับรังสี เคยเป็นมะเร็งรังไข่ มะเร็งปากมดลูก และมะเร็งลำไส้ เป็นโรคอ้วน เต้านมถูกกระทบกระเทือนอยู่เสมอ และในผู้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ

การตรวจหาเซลล์มะเร็งเต้านม

ทำได้หลายวิธีขึ้นกับหมอจะเห็นเหมาะสม เช่น การนำชิ้นเนื้อไปตรวจที่เรียกว่า Biopsy การเอ็กซ์เรย์เต้านมแบบ Mammogram ที่ช่วยให้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในเนื้อเยื่อของเต้านมได้

หากมีความผิดปกติเกิดขึ้นกับคุณ สิ่งที่ควรทำคือ
พยายามเรียนรู้ทุก ๆ อย่างเกี่ยวกับโรคมะเร็งเต้านม รวมทั้งวิธีการรักษาด้วย
ถามทุกเรื่องที่มีความสงสัย และยังไม่เข้าใจ ควรขอคำแนะนำและความเห็นจากคุณหมอที่ดูแลคุณ
หาโอกาสคุยกับคนที่เคยรักษามะเร็งเต้านมมาแล้ว
พัฒนาการของโรค

การจะแน่ใจว่าเป็นมะเร็งเต้านมต้องผ่านการตรวจหลายวิธี เพื่อวัดขนาดของก้อนมะเร็ง ตรวจการแพร่กระจาย เพื่อตรวจหาระยะของมะเร็ง (staging) เพื่อใช้ในการวางแผนการรักษาที่เหมาะสม ตามปกติแล้วระยะของมะเร็งจะแบ่งได้ดังนี้
stage 0 เป็นระยะที่มะเร็งยังไม่ลุกลาม พบเซลล์มะเร็งอยู่เฉพาะในท่อน้ำนม
stage 1 ก้อนมะเร็งมีเส้นผ่าศูนย์กลางไม่เกิน 2 เซนติเมตร ลุกลามไปยังเนื้อเยื่อเต้านม
stage 2 ก้อนมะเร็งมีเส้นผ่าศูนย์กลางเกิน 2 เซนติเมตร หรือลุกลามไปถึงต่อมน้ำเหลืองบริเวณรักแร้แล้ว
stage 3 ก้อนมะเร็งมีเส้นผ่าศูนย์กลางเกิน 5 เซนติเมตร หรือลุกลามไปถึงผิวหนัง ผนังอก หรือต่อมน้ำเหลืองบริเวณใกล้เคียง
stage 4 มะเร็งลุกลามไปถึงกระดูก ปอด หรือต่อมน้ำเหลืองที่ห่างจากเต้านมแล้ว
นอกจากนี้ในบางคนยังมีโอกาสเกิดมะเร็งที่กลับมาซ้ำอีกแม้ว่าจะได้รับการรักษาแล้ว (Recurrent breast concer)

จัดการกับมะเร็งเต้านม

หากว่าสตรีที่มีความน่าสงสัยว่าจะเป็นมะเร็งเต้านม ปกติแล้วหมอจะทำการตรวจจนได้ผลที่แน่ชัดจึงวางแผนการรักษา อาจจำเป็นต้องทำการผ่าตัด ซึ่งหลังจากนั้นจะรักษาเพื่อยับยั้งการกระจายตัวของเซลล์มะเร็ง ได้แก่ การให้เคมีบำบัด (Chemotherapy) การใช้รังสีรักษา (Radiation therapy) หรือการรักษาด้วยฮอร์โมน (Hormone therapy) การรักษาอาจจะใช้หลายวิธีร่วมกัน (Adjuvant therapy) หรือทางใดทางหนึ่งขึ้นกับการวินิจฉัยของแพทย์ซึ่งแต่ละคนและขั้นของโรคแตกต่างกัน

ในสตรีที่เกิดเป็นมะเร็งเต้านมหรือแม้กระทั่งเป็นโรคอื่น ๆ ที่นำความกังวลมาให้ ก็มักจะมีความปั่นป่วนทางจิตใจได้ โดยเฉพาะเรื่องของอารมณ์ บางวันเธอผู้นั้นอาจจะรู้สึกเข้มแข็งมีกำลังใจสู้ แต่วันต่อมาเธออาจจะรู้สึกท้อแท้หวาดกลัว ซึ่งความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เป็นเรื่องธรรมดา คนรอบข้างและคนในครอบคัวจะต้องทำความเข้าใจสภาพจิตใจของเขาด้วย ทุกคนควรจะเป็นผู้ให้กำลังใจกับเธอ ให้คำปรึกษา เพื่อช่วยลดความวิตกกังวล อย่าลืมว่า มะเร็งเต้านมหากตรวจพบแต่แรก และรีบทำการรักษามีโอกาสรักษาให้หายขาดสูง

No comments:

Post a Comment